โดย อภิญญา ซอระสี
นักศึกษาปริญญาโท สาขา หลักสูตรและการสอน(คณิตศาสตร์)
นับจากอดีตจนถึงปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในระดับมัธยมยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากวิชาคณิตศาสตร์มีลักษณะเป็นนามธรรม และเนื้อหาบางตอนก็ยากที่จะอธิบายให้เด็กเข้าใจ
ต้องใช้ความคิดอย่างสมเหตุสมผล จึงจะเรียนรู้และเข้าใจโครงสร้างทางคณิตศาสตร์ได้ ด้วยเหตุนี้ผู้เรียนส่วนใหญ่จึงไม่ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และมีผลการเรียนอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ นักเรียนคิดแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ไม่เป็นการเรียนการสอนจึงมีลักษณะเป็นการเลียนแบบนักเรียนทำแบบฝึกหัดหรือทำการบ้านไม่ได้ นักเรียนไม่สนใจและไม่ตั้งใจเรียน นักเรียนส่วนมากไม่มีทักษะในการคิดคำนวณ และไม่มีทักษะในการคิดแก้ไขปัญหาคณิตศาสตร์ เนื่องจากครูคณิตศาสตร์โดยทั่วไปคิดว่าการสอนคณิตศาสตร์แผนใหม่มุ่งเน้นความเข้าใจความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์แต่เพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติด้านการทำแบบฝึกหัดหรือการทำการบ้านมาก
ๆ
(สมจิต ชีวปรีชา; อ้างใน นพวรรณ มงคลนพเก้า. 2545 : 46-47)
ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนคิดว่า ผู้สอนควรที่จะสนใจว่าทำอย่างไรจึงจะให้ผู้เรียนใส่ใจคณิตศาสตร์ให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่าก่อนอื่นผู้สอนต้องทำให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีกับวิชาคณิตศาสตร์ก่อน และจึงขอเสนอรูปแบบการสอนซึ่งมี 6 ระดับขั้น คือ
- ขั้นออกแบบ : ผู้สอนต้องวางแผนและออกแบบกิจกรรม
ให้สอดคล้องกับเนื้อหาและระดับการเรียนรู้
อย่างรอบคอบ ระดับความพร้อมของผู้เรียน เน้นให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วม สนุกสนานในการเรียน
มีทักษะทางคณิตศาสตร์ในด้านต่าง ๆ
- ขั้นนำ : ต้องสร้างบรรยากาศการเรียนการสอนเป็นไปอย่างสนุกสนาน
ส่งเสริมให้เด็กมีเหตุผล
สร้างความสามัคคี เช่น นำเข้าสู่บทเรียนด้วยเกม การแข่งขัน
คิดเลขเร็ว แต่งนิทาน วาดรูป
- ขั้นสอน : ผู้สอนต้องสอนจากสิ่งที่ง่าย ไปสู่ยาก
ในเรื่องที่ยากผู้สอนต้องไม่ให้ผู้เรียนศึกษาเองและไม่ควรเน้นที่ใบงาน
ใบกิจกรรมมากจนเกินไป
ผู้สอนควรเป็นผู้ที่คอยแนะนำ ให้คำปรึกษาไม่ใช่ผู้บอกทั้งหมด
ผู้สอนต้องให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียน
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงทัศนคติ และนำสื่อต่าง ๆ มาใช้ประกอบการสอน
ควรเป็นสื่อที่ผู้สอนผลิตเองหรือให้ผู้เรียนร่วมกันผลิตสื่อ
เน้นการใช้วัสดุที่หาได้ง่าย
อาจใช้ของจริงประกอบ
- ขั้นฝึกหัด : ผู้สอนควรกำหนดสถานการณ์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียน
ให้ผู้เรียนทำเป็นรายบุคคล
หรือทำเป็นกลุ่ม ในแต่ละกลุ่มควรมีการคละความสามารถของผู้เรียน
ในขั้นนี้อาจให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่ม ร่วมกันสร้างสถานการณ์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียนแล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน
- ขั้นสรุป : ให้ผู้เรียนซักถามข้อสงสัย (ถ้ามี)
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เรียนไป
ผู้สอนช่วยชี้แนะ และผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนไป
หรือให้ผู้เรียนสรุปเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
- การประเมิน : เน้นการประเมินตามสภาพจริง
มีการประเมินที่หลากหลาย และควรให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมินด้วย
รูปแบบการสอน 6 ขั้นนี้ เป็นรูปแบบกว้าง ๆ ที่ผู้สอนสามารถประยุกต์เอาวิธีสอนต่าง ๆ มาใช้
เพราะเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าในวิธีสอนนั้นไม่มีวิธีสอนใดดีที่สุดกับทุกเนื้อหา ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้สอนว่าจะเลือกเอาวิธีสอนใดมาใช้
และควรคำนึงว่า การสอนนั้น
- ต้องสัมพันธ์กับเนื้อหาหรือสามารถทำให้ผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์ที่ตั้งไว้
มากที่สุดและต้องเน้นให้ผู้เรียนเกิดการฝึกทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์
- นำสถานการณ์จริงมาใช้ในการสอน เพราะการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงเป็นการฝึกปฏิบัติให้คิดเป็น
และเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ทำให้ผู้เรียนมองคณิตศาสตร์เป็นรูปธรรม
- ไม่ควรใช้วิธีสอนที่ซ้ำ ๆ เดิม ๆ
หรือหลีกเลี่ยงการสั่งการบ้านมาก ๆ เพราะผู้เรียนจะได้ไม่รู้สึกน่าเบื่อ
ควรหลีกเลี่ยงโดยให้แบ่ง ๆ กันทำแล้วนำเสนอ เป็นต้น
- เน้นให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนให้มาก
ๆ เช่น การผลิตสื่อ การทำแบบฝึกหัด การจัดกิจกรรม
ให้ผู้เรียนได้มีส่วนช่วยกันในกลุ่มเพื่อน เพราะเมื่อครูช่วยให้ นักเรียนพัฒนาการเรียนของตนและตระหนักถึงความเกี่ยวข้องของทักษะ
และกระบวนการต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในชีวิตจริง
นักเรียนก็จะกล้าคิดกล้าทำและร่วมกันรับผิดชอบในการเรียนมากขึ้น
การมีส่วนร่วมนี้ช่วยให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นและมีแรงจูงใจ
การทำงานเป็นกลุ่มย่อย
หรือทำงานเดี่ยวกับการทำงานร่วมกับผู้อื่นและได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นช่วยให้นักเรียนได้มีส่วนเป็นเจ้าของในการเรียนนั้น
ๆ
การมีส่วนร่วมจะช่วยลดความกลัวในเรื่องความผิดพลาดและช่วยให้
นักเรียนกล้าเสี่ยง ในเวลาเดียวกันจะเป็นโอกาสสำหรับครูที่จะให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนเพื่อให้นักเรียนพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การเรียนคณิตศาสตร์มิใช่เพียงแค่ผู้สอนต้องสร้างองค์ความรู้ให้กับผู้เรียนเท่านั้น แต่เป็นการสร้างเจตคติที่ดีให้กับผู้เรียน ต้องทำให้ผู้เรียนไม่รู้สึกว่าการเรียนคณิตศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ทำให้ผู้เรียนรู้สึกอยากเรียนคณิตศาสตร์ และทำให้ผู้เรียนรู้ว่าในชีวิตประจำวันนั่นก็เป็นคณิตศาสตร์
นี่ก็เป็นคณิตศาสตร์ ไม่ใช่ให้ผู้เรียนเกิดคำถามในใจว่าเรียนคณิตศาสตร์ไปทำไมไม่เห็นได้ใช้เลย
แหล่งอ้างอิง
ยุพิน พิพิธกุล.(2530).การสอนคณิตศาสตร์.กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุวิทย์, อรทัย
มูลคำ.
(2545). วิธีจัดการเรียนรู้
: เพื่อพัฒนาความรู้และ
ทักษะ. กรุงเทพฯ : ห้างหุ้นส่วนจำกัดการพิมพ์.
นพวรรณ มงคลแก้ว. (2542). การศึกษาความคิดเห็นของครู
คณิตศาสตร์ในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มโรงเรียนสุโขทัย
สังกัดสำนักงานประถมศึกษา. กรุงเทพฯ.
ภาคนิพนธ์
การสอนคณิตศาสตร์ : [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา :http://www.kanid.com
ปัญหาคณิตศาสตร์ : [ออน-ไลน์]. แหล่งที่มา :http://www.google.com
ผู้เรียบเรียง
ที่มา : นางสาวอภิญญา ซอระสี
นักศึกษาปริญญาโท สาขาหลักสูตรและการสอน(คณิตศาสตร์)
โดย : นางสาว อภิญญา ซอระสี, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2548
|